ข่าวกระแสสังคม

รอง หน.เพื่อไทยควงภรรยาเปิดศูนย์ที่นรา ตั้งข้อสงสัยเงินก้อนใหญ่ที่บริจาคหวังผลอะไรทางการเมือง

นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ

รอง หน.เพื่อไทยควงภรรยาเปิดศูนย์ที่นรา ตั้งข้อสงสัยเงินก้อนใหญ่ที่บริจาคหวังผลอะไรทางการเมือง

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 ธ.ค. 61 นายกิติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นรอง หน.พรรคเพื่อไทย ได้ควง นางเกสรา ณ ระนอง ภรรยา เดินทางมาเปิดสาขาศูนย์พรรคเพื่อไทย เขต4 ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 86 ถ.รามโกมุท ม.3 ต.ยี่งอ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส โดยมีนางสิริภา มะดากะกุล หัวหน้าสาขาศูนย์พรรคเพื่อไทย และผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ทั้ง 3 เขต รวมไปถึงผู้สนับสนุนและแกนนำพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ จำนวนกว่า 300 คน คอยให้การต้อนรับ
โดยนายกิตติรัตน์ และภรรยา ได้มีการพูดคุยนอกรอบกับนางสิริภา หัวหน้าสาขาศูนย์พรรคเพื่อไทย และผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยทั้ง 3 เขต กรณีหยั่งเสียงความนิยมของพรรคเพื่อไทย ซึ่งในอดีตถือว่าเป็นพรรคหนึ่งที่ประชาชนมีความนิยมไม่แพ้พรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มวาดะห์ ซึ่งการเลือกตั้งในครั้งนี้ประเมินว่า คนนิยมบุคคลมาลำดับแรกส่วนกรณีพรรคมาอันดับที่ 2 ซึ่งเชื่อว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคทางเลือกหนึ่งของประชาชน ที่พรรคการเมืองอื่นๆต้องหากลยุทธ์ในการหาคะแนนเสียง เพื่อเอาชนะผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย

ต่อมา นายกิตติรัตน์ และภรรยา ได้เข้าประชุมเพื่อชี้แจงนโยบายของพรรคเพื่อไทย ให้กับกลุ่มแกนนำและสมาชิกของพรรคเพื่อไทยได้รับทราบ พอสรุปใจความได้ว่า พรรคเพื่อไทยมีความมุ่งหมั่นที่จะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ทุกระดับชั้น ซึ่งมีหัวใจหลัก 3 ข้อ ให้ประชาชนได้ตัดสินใจ คือ 1. ท่านจะมีหนี้สินหรือรายได้ 2. ท่านจะอยู่ด้วยความสิ้นหวังหรือมีโอกาส และ 3.ท่านจะอยู่กับความล้มเหลวหรือความสำเร็จ ซึ่งในระหว่างนายกิตติรัตน์ กล่าวนโยบายซึ่งเป็นทางเลือกของประชาชน ได้รับการตอบรับจากผู้รับฟัง พร้อมได้มีการตบมือกันเป็นระยะๆ

 

ก่อนที่นายกิตติรัตน์ และภรรยา จะเดินทางไปยังพื้นที่ จ.ปัตตานี ได้เปิดเผยว่า ตอนรัฐธรรมนูญออกมาในปี 60 ผมเป็นคนหนึ่งที่ลงคะแนนไม่รับ เพราะกลไกวุฒิสมาชิกเป็นจำนวนมากที่ไม่ผ่านการพิจารณาของประชาชนเลย ก็เป็นกลไกที่เราได้ประชาธิปไตยเพียงครึ่งใบ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อกฎหมายเป็นกฎหมายแล้ว เราก็มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม ในรายละเอียดพรรคการเมืองแต่ละพรรคในแต่ละเขตอาจจะเป็นคนละเบอร์ ก็เป็นเรื่องที่สับสน หรือรายละเอียดที่กำหนดอย่างเข้มงวด เช่น ป้ายประชาสัมพันธ์ที่หาเสียงเสนอตัวของผู้สมัคร มีข้อห้ามต่างๆมากมาย ซึ่งข้อห้ามต่างๆมันขัดกับธรรมชาติ อย่างเช่นห้ามติดป้ายหาเสียงในที่ที่เป็นเอกชน ก็แปลว่าบ้านของผู้สมัครเองก็อาจจะติดป้ายบ้านตัวเองไม่ได้
ส่วนกรณีการจัดงานเลี้ยงเพื่อระดมทุนเงินสนับสนุนของพรรคการเมืองนั้น นายกิตติรัตน์ เปิดเผยว่า มันกระทำได้เพราะพรรคการเมืองเป็นของประชาชน แต่วิธีการระดมทุนอาจจะมาจากคนน้อยๆ แต่รายเยอะๆก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจน่าจับตามอง เพราะรายที่ให้เยอะๆสุดท้ายน่าจะหวังอะไรหรือเปล่า มันเป็นไปตามกฎหมายมั๊ย การที่จะบริจาดเงินโดยได้สิทธิ์ไปนั่งรับประทานอาหารในราคาสูงๆ ในยามที่เศรษฐกิจบ้านเมืองไม่ค่อยดีนักนี้ จะทำให้ประชาชนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ