Reporter&Thai Army

การแถลงข่าวผลการจับกุมขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด จำนวน 7 คน ของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 14 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 343 กิโลกรัม บริเวณบริเวณเส้นทาง บ้านใหม่พัฒนา – บ้านพญาพิภักดิ์

การแถลงข่าวผลการจับกุมขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด จำนวน 7 คน ของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 14 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 343 กิโลกรัม บริเวณบริเวณเส้นทาง บ้านใหม่พัฒนา – บ้านพญาพิภักดิ์ พิกัด PB 360988 ผู้ต้องหา จำนวน 7 นาย เมื่อ 23 กรกฎาคม 2561 เวลาประมาณ 03.00 นาฬิกา พลตรีณัฐวุฒิ ชุณหะนันทน์ ผู้บัญชาการ ศูนย์ปฏิบัติการป้องการและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบ ลำเลียงผ่านเส้นทางดังกล่าว จึงได้สั่งการให้ กองบังคับการควบคุม ศูนย์ปฏิบัติการป้องการและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือที่ 3, ร่วมกับ ชุดปฏิบัติการศูนย์ปฏิบัติการป้องการ และปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ ที่ 8, กองร้อยทหารพราน 3104 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจอำเภอขุนตาล สนธิกำลังซุ่มตรวจโดย จับกุมผู้ต้องหา จำนวน ๗ คน พร้อมด้วยของกลาง รถสิบล้อ จำนวน 1 คัน, รถเก๋งวีออส จำนวน 1 คัน และรถยนต์บรรทุกปิคอัพ โตโยต้า จำนวน 1 คัน (พลิกคว่ำกลางเกาะถนน สาย 1020) ตรวจพบยาเสพติดบรรทุกในรถสิบล้อบรรจุในถุงปุ๋ย จำนวน 14 กระสอบ (ไอซ์) ประมาณจำนวน 343 ก้อน (343 กิโลกรัม)

(1.) กระสอบละ 25 ก้อน จำนวน 12 กระสอบ
(2.) กระสอบละ 24 ก้อน จำนวน 1 กระสอบ
(3.) กระสอบละ 19 ก้อน จำนวน 1 กระสอบ

เหตุเกิดบริเวณ เส้นทางระหว่างเส้นทาง บ.ใหม่พัฒนา – บ.พญาพิภักดิ์ พิกัด PB 360988 รายชื่อ ผู้ต้องหา จำนวน 7 นาย ดังนี้

(1.) นายสุนทร ดาราษฎร์ อายุ 46 ปี 195 หมู่ 2 ตำบลเพ็กใหญ่ อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น (คนขับรถสิบล้อ)
(2.) นายยือซ่า แซ่โซ้ง อายุ 32 ปี 51/2 หมู่ 9 ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย
(3.) นายดี แซ่โซ้ง อายุ 30 ปี 61 หมู่ 12 ตำบลทุ่งกล้วย อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา
(4.) นายชนศร แซ่ว่าง อายุ 26 ปี 299 หมู่ 6 ตำบลเสนียน อำเภอเมือง จังหวัดน่าน
(5.) นายพิษิตฐ์ พัฒนหิรัณย์ อายุ 25 ปี 196 หมู่ 9 ตำบลสบบง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา
(6.) นายพนัส แซ่ว่าง อายุ 20 ปี 106 หมู่ 9 ตำบลเสนียน อำเภอเมือง จังหวัดน่าน
(7.) นายอาเนช แซ่ย่าง อายุ 15 ปี 246 หมู่ 9 ตำบลสบบง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา

ทั้งนี้ ผลสัมฤทธิ์ของการจับกุมในครั้งนี้ เกิดจาก ทุกภาคส่วนผนึกกำลัง เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา ยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ และให้มีการเพิ่มความเข้มข้นงานด้านการข่าว โดยต้องวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้าน และทันเวลา รวมทั้งการเพิ่มมาตรการเข้มงวด ที่มุ่งเน้นการสกัดกั้น ในลักษณะการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดทางยุทธวิธี โดยวิธีการปรับเปลี่ยนเวลาตามสถานการณ์ ควบคู่ ไปกับการลาดตระเวน เฝ้าตรวจตามเส้นทางในภูมิประเทศ ซึ่งกองทัพภาคที่ 3 เปิดยุทธการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของรัฐบาล และกองทัพบก ที่กำหนดให้ปัญหา ยาเสพติด เป็นปัญหาที่สำคัญ ที่ต้องได้รับการป้องกันและแก้ไขอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เพื่อลดการแพร่ระบาดของ ยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ และในแต่ละภาคของประเทศไทย นั้น ทุกภาคส่วน ทั้ง ทหาร ตำรวจ ส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้อง และประชาชน ต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา เพื่อมุ่ง ไปสู่การแก้ไขปัญหายาเสพติด อย่างยั่งยืน และยาวนาน