สถานที่ท่องเที่ยว

ร้อยเอ็ด “ไลฟ์สไตล์ ออกพรรษา กวนข้าวทิพย์ เขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด”” ในงานมีการรำวง ออกพรรษา “ประเพณีออกพรรษา กวนข้าวทิพย์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปี 2561″๚

ร้อยเอ็ด “ไลฟ์สไตล์ ออกพรรษา กวนข้าวทิพย์ เขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด”” ในงานมีการรำวง ออกพรรษา “ประเพณีออกพรรษา กวนข้าวทิพย์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปี 2561″๚

วันอังคารที่ 23 ตุลาคม 2561 ณ ลานสาเกตนคร สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด.!!๚

เขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จัดงานประเพณีออกพรรษา กวนข้าวทิพย์ การรำวงออกพรรษาอันเป็นประเพณีที่จัด มาช้านาน ในงานดังกล่าว มีการประกวดกวนข้าวทิพย์และประกวดการจัดตกแต่งประทีปโคมไฟ จาก 14 คุ้มวัดในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดหลังจากพิธีทางพระพุทธศาสนาเรียบร้อยแล้ว มี การประดับตกแต่งประทีปโคมไฟ และร่วมกวนข้าวทิพย์กับพี่ น้องประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรม และประเพณีอันดีงาม ของชาวร้อยเอ็ด ทั้งนี้โดยความร่วมมือกับทั้งภาคราชการ พ่อค้า ประชาชน สถานศึกษา จัดงานประเพณีออกพรรษา และพิธีกวนข้าวทิพย์ขึ้น ชาวคุ้มวัดต่างๆ จะมาจัด ซุ้มกวนข้าว ทิพย์ ที่บริเวณหน้าสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด มีการประดับประทีปโคมไฟ อย่างสวยงาม ที่สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด บริเวณหน้าบึง พลาญชัย มีการประกวดซุ้มกวนข้าวทิพย์สวยงาม

ในงานดังกล่าว เทศบาลเมืองร้อยเอ็ดได้จัดประกวด 3 ลักษณะคือ 1) การประกวดประดับประทีปโคมไฟ 2) การประกวดกวนข้าวทิพย์ 3) การประกวดสรภัญญะอีสาน นอกจากนั้นยังมีการแสดงบนเวที โดยวิทยาลัยนาฏศิลปร้อยเอ็ด

งานกวนข้าวทิพย์ เป็นงานที่ชาวบ้านเชื่อว่า เป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ โดยก่อนออกพรรษา 1 วัน ชาวบ้านจะนิมนต์พระสงฆ์ มายังมณฑลพิธี เพื่อเจริญพระพุทธมนต์ จัดหญิงสาว พรหมจารีในชุดขาว ที่ผ่านการเจิมหน้าจากพ่อพราหมณ์ มาทำการกวนข้าวทิพย์ จาก นั้น ประชาชนที่มาร่วมในงาน จะนำเอาธัญพืชอันเป็นสิริมงคลเช่น ถั่ว งา สาคู ข้าว โพด ข้าวเม่า ข้าวสาร ลูกบัว น้ำนมโค น้ำนม ผึ้ง น้ำอ้อย น้ำมะพร้าวอ่อน มารวมกันและบดใส่

ใน กระทะ กวนให้สุก และจะนำไปใส่บาตรพระสงฆ์ในตอนเช้าวันต่อมา ซึ่งเป็นวันออก พรรษา นอกจากนั้นแจกจ่ายให้ญาติโยมที่มาร่วมทำบุญ รับประทานกันอย่างทั่วถึง มีความเชื่อว่า ผู้ที่ได้ทานข้าวทิพย์ จะมีอายุมั่นยืนยาว ปราศจากโรคภัย มีความสุขตลอดไป

 

จากการศึกษา ประเพณีกวนข้าวทิพย์ เป็นประเพณีที่สืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ก่อนที่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสรู้ นางสุชาดา ซึ่งเป็นธิดาของเศรษฐีหมู่บ้าน เสนานิคม ได้นำอาหารซึ่งกวนด้วยข้าวมธุปายาส ไปบวงสรวงเทพยดาที่ใต้ต้น นิโครธ ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 นางสุชาดา ได้พบกับพระพุทธองค์ ประทับอยู่ใต้ต้นนิโครธ จึงเข้าใจว่าเป็นเทพยดา จึงถวายข้าวมธุปายาส และเมื่อพระพุทธองค์ ทรงเสวย เสร็จแล้ว นำถาดทองที่ใส่ข้าวมธุปายาสนั้นไปลอยน้ำ พระองค์ทรงอธิฐานว่า ถ้าจะได้ตรัสรู้ก็ขอให้ถาดทองนั้นลอยทวนน้ำขึ้นไป และเมื่อพระองค์ทรง วางถาดลงในน้ำ ปรากฏว่า ถาดทองลอยทวนน้ำขึ้นเหนือน้ำดังคำอธิฐานจริง ๆ พระองค์จึงถือว่าภัตตาหารมื้อนั้น มีส่วนที่ทำให้พระองค์ได้สำเร็จและตรัสรู้ อริยสัจ 4 ในเวลาต่อมา

เพื่อเป็นการอนุรักษ์ และรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น ให้คงไว้สืบไป ตลอดจนเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งกิจกรรมภายในงานมีการประกวดข้าวทิพย์ ประกวดประดับประทีปโคมไฟ งานกวนข้าวทิพย์ ชาวบ้านเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดเชื่อว่าเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ โดยก่อนออกพรรษา 1 วัน จะนิมนต์พระสงฆ์มายังมณฑลพิธีเพื่อเจริญพระพุทธมนต์ แล้วหญิงสาวพรหมจารีในชุดขาว ที่ผ่านการเจิมหน้าผากโดยพราหมณ์ทำการกวนข้าวทิพย์ จากนั้นประชาชนที่มาร่วมในพิธีจะนำเอาธัญพืชที่เป็นสิริมงคล มารวมกันใส่ในกระทะแล้วกวนให้สุก จากนั้นก็จะนำไปตักบาตรพระสงฆ์ในเช้าวันต่อมา ซึ่งเป็นวันออกพรรษาพอดี และนำข้าวที่เหลือไปแจกจ่ายให้รับประทานกันอย่างทั่วถึง เชื่อกันว่าจะมีอายุยืนยาว ปราศจากโรคภัย

 

^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^
ศรีไพร ทูลธรรมข่าว/ภาพ
สื่อประชาสัมพันธ์สมาคมอสม.อำเภอเมืองร้อยเอ็ด
101.Smart city /รายงาน