Uncategorized

บุรีรัมย์ หนุ่มตามง้อแฟนไม่สำเร็จ แค้นหนัก ดักชกหน้าตามเผาบ้าน วอนตำรวจล่าตัวมาลงโทษ

หนุ่มวัย 47 ปี ออกจากคุกฐานลักทรัพย์ เมายาบ้าง้อแฟนสาวไม่สำเร็จ ซื้อโทรศัพท์มาให้ก็ถูกปฏิเสธ ดักชกแฟนหน้าบ้านพร้อมขู่ฆ่า ฝ่ายหญิงหนีไปพึ่งญาติกลับบุกเข้าไปเผาบ้านแล้วโทรบอก วอนตำรวจตามตัวมาลงโทษ หวั่นไม่ปลอดภัย

วันที่ 25 เมษายน 62 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.เบญญาภา แก้วยงกฎ อายุ 34 ปี ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ว่าตัวเองกำลังได้รับความเดือดร้อนและครอบครัวอยู่ในภาวะอันตราย เนื่องจากอดีตแฟนหนุ่มทำร้าย และเผาบ้านและขู่ฆ่ายกครัว

จึงเดินทางไปตรวจสอบ เป็นบ้านปูนชั้นเดียว บ้านเลขที 120 หมู่ 13 บ้านหนองยาง ตำบลลำไทรโยง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ พบตู้โชว์ภายในบ้านถูกเผาเสียหาย ตัวบ้านได้รับความเสียหายเล็กน้อย เจ้าของชื่อ

สอบถาม น.ส.เบญญาภา เล่าว่า ตนอาศัยอยู่กับแม่พิการ และลูกชายอายุ 10 ขวบซึ่งพิการเช่นเดียวกัน ก่อนหน้านี้ได้คบหากับแฟนหนุ่มนายหนุ่ม ทวีพูน อายุ 47 ปี เป็นคนบ้านหนองยาง ตำบลลำไทรโยง อยู่กินด้วยกันประมาณ 4 ปี แล้วไปทำงานด้วยกันที่กรุงเทพฯ นายหนุ่มก็ถูกจับ ข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง ศาลสั่งจำคุก 1 ปี 9 เดือน ตนก็ไม่สนใจเพราะนายหนุ่ม ชอบเสพยา ไม่ช่วยทำงานหาเงิน และทำร้ายตนเป็นประจำ

หลังจากแฟนติดคุกตนเองจึงกลับไปอยู่บ้านกับแม่ คอยดูแลแม่ เพราะมือไม่สามารถขยับช่วยเหลือตนเองไม่ได้ และตนเองยังมีลูกสาว อายุ 11 ขวบ พิการ ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ตนเองต้องดิ้นรนงานทำหาเงินมาเลี้ยงจุนเจือครอบครัวด้วยตนเอง

หลังจากแฟนหนุ่ม ออกจากคุกก็ตามง้อขอคืนดี แต่ตนเองไม่คืนดีด้วย เพราะเกรงว่าจะมีนิสัยเหมือนเดิม ทำให้นายหนุ่ม ไม่พอใจโทรศัพท์มาข่มขู่ จะฆ่า จะทำร้าย ตนเอง และในครอบครัว ทั้งหมด ซึ่งไปลงบันทึกประจำวัน ที่โรงพักไว้เป็นหลักฐานแล้ว

แต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา ระหว่างที่ตนเอง พักเที่ยงจากการทำงาน ขับรถกลับบ้าน เพื่อไว้ป้อนข้าวแม่ และลูกสาว เห็นนายหนุ่มได้มา ดักรอ ระหว่างทางแล้วมาขอตกลงเจรจา ขอคืนดีอีกรอบ แต่ตนเองปฏิเสธ

นายหนุ่มยังเอาโทรศัพท์มือถือมาให้ใช้ เพราะรู้ว่าโทรศัพท์ตนเองเสีย แต่ตนก็ปฏิเสธ ไม่คืนดีและไม่เอาโทรศัพท์มือถือ นายหนุ่มจึงต่อยเข้าที่ ตาขวา และใบหน้า 2-3 ครั้ง ทำให้ตาบวม หน้าบวม ตนจึง ไปหาหมอ รับการรักษา และไปแจ้งความ ที่โรงพัก

พอตกกลางคืนเวลาประมาณ 22.00 น นายหนุ่มได้ย้อนมาที่บ้าน เลขที่ แล้วเผาทำลาย ข้าวของภายในบ้าน ซึ่งขณะนั้น ไม่มีใครอยู่ในบ้าน จนเสียหายเกือบทั้งหมดภายในบ้าน แถมโทรไปหาญาติพี่น้องของตน ว่าได้เข้าไปเผา ทรัพย์สินภายในบ้านทั้งหมด ต้นจึงรีบไปที่บ้านหลังดังกล่าว พร้อมกับญาติพี่น้อง แล้วช่วยกันดับไฟ และได้ไปแจ้งความที่โรงพักให้ตำรวจดำเนินคดี จึงอยากจะเรียกร้องให้ตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี เพราะเกรงว่าครอบครัวจะไม่ปลอดภัย

ข่าว-ภาพ วันชัย ผิวอร่าม / วาทิตย์ แสนธุปี ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์