Uncategorized

เจ้าหนี้เงินกู้ดอกโหด ตามทวงหนี้ 2 ผัวเมีย พาพวกรวม 3 คน ขับเก๋งบุกข่มขู่ถึงบ้านบอกจะยิงทิ้งหากเบี้ยวหนี้กว่า 3 หมื่นบาท

ผู้ประกาศ………….เจ้าหนี้เงินกู้ดอกโหด ตามทวงหนี้ 2 ผัวเมีย พาพวกรวม 3 คน ขับเก๋งบุกข่มขู่ถึงบ้านบอกจะยิงทิ้งหากเบี้ยวหนี้กว่า 3 หมื่นบาทเทปข่าว…………….เมื่อช่วงเวลาเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 19 กรกฎาคม 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พานทอง ได้รับแจ้งทาง 191 ว่ามีแกงค์ปล่อยเงินกู้มาทวงหนี้พร้อมข่มขู่ลูกหนี้ทำให้กลัวไม่กล้าออกนอกบ้านจึงไปตรวจสอบที่ บ้านเลขที่ 38/12 หมู่ 4 ต.หนองหงษ์ อ.พานทอง จ.ชลบุรี พบเจ้าของบ้านนายอภิลักษ์ ดวงศรี อายุ 47 ปี ยืนอยู่กับ น.ส.ปาหนัน ม่วงสาย อายุ 32 ปี ภรรยา รออยู่ในบ้านด้วยความหวาดกลัวพร้อมเผยว่ามีเจ้าหนี้พาพวกมา 3 คน ขับรถเก๋งมาข่มขู่ ด่าทอและทำทีเหมือนไปเอาอาวุธปืนในรถเก๋งอีกด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแนะนำให้มาที่ สภ.พานทอง เพื่อแจ้งความกับ พ.ต.ท.นันทพนธ์ นาในบุญ สว.( สอบสวน ) สภ.พานทอง ไว้เป็นหลักฐานเพื่อให้รู้ว่าหากตนและคนในครอบครัวถูกทำร้ายอาจจะเป็นแก๊งค์เงินกู้กลุ่มนี้เพราะได้ข่มขู่ตนและครอบครัวไว้
สอบถามนางสาวปาหนัน ม่วงสาย ภรรยาเผยอ้างว่าตนได้ทำธุรกิจส่วนตัวแต่ประสบปัญหาเงินขาดแคลนในการลงทุนจึงได้ไปกู้เงินตามใบปลิวที่ติดอยู่เสาไฟฟ้าข้างทาง ระบุชื่อนายภักดี อยู่ยอด หรือนายโชคเด่น โดยได้กู้มาจำนวน 30,000 บาท ดอกเบี้ย 100 ละ 20 โดยจะต้องจ่าย ทุกวัน วันละ 1,500 บาท รวม 24 วัน ก็ตก 36,000 บาทโดยดอกเบี้ยตกอยู่ 6,000 บาท ตนก็ยอมรับว่าอาจมีบ้างที่จ่ายช้าเพราะเศรษฐกิจไม่ค่อยดีก็มีบ้างผลัดบ้างแต่ตนก็มาทบให้แต่ทางเจ้าหนี้ก็ด่าและข่มขู่จนตนรู้สึกกลัวและไม่ปลอดภัยต่อคนในครอบครัวเพราะในบ้านมีตนและสามีกับลูกสาวอีก 2 คน คนโตอายุ 14 และคนเล็กสุด 3-4 ขวบ หวั่นเกิดอันตรายจึงอยากฝากตำรวจให้ช่วยด้วยเพราะตนกับครอบครัวกลัวมากและขอจะไม่กู้หนี้นอกระบบอีกต่อไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามตัวนายภักดี มาสอบสวนว่าได้ออกเงินกู้ดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนดหรือไม่และได้ข่มขู่ลูกหนี้ตามที่มีผู้มาแจ้งความหรือไม่ เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไปสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เปิดเผยนาม ทราบว่าขณะนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีนโยบายปราบปรามเงินกู้ดอกโหดหรือเงินกู้นอกระบบอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้ขูดรีดดอกเบี้ยโหดกับผู้ยากไร้ต่อไป………..ภาพ ข่าว นายเดชน์ภิญโญ หลายวัฒนไพศาล 0827163999 ผู้สื่อข่าวชลบุร

Comments are closed.