Reporter&Thai Army

กองทัพภาคที่ 3 เปิดมาตรการดูแลความปลอดภัยลอยกระทง 61 …ลุยป้องปรามยาเสพติดตอนบน ไม่ลืม…เสริมสร้างลักษณะทหารที่ดี Smart Man…….

กองทัพภาคที่ 3 เปิดมาตรการดูแลความปลอดภัยลอยกระทง 61 …ลุยป้องปรามยาเสพติดตอนบน ไม่ลืม…เสริมสร้างลักษณะทหารที่ดี Smart Man…….

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 พันเอก รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ 3 และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 พร้อมด้วย พันโท ทรงสิทธิ์ รอดสการ ทีมงานโฆษกกองทัพภาคที่ 3 และ ร้อยตรี หญิง ช่อเอื้อง สาสังข์ ผู้ช่วยโฆษกกองทัพภาคที่ 3 และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 แถลงข่าวผลการดำเนินงานในภารกิจที่สำคัญของกองทัพภาคที่ 3 มีสาระสำคัญดังนี้ พิธีเกี่ยวข้าวพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานเมล็ดพันธุ์ข้าว พันธุ์ข้าวดอกมะลิ 105 ซึ่งเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวอินทรีย์ที่ผลิตโดยมูลนิธิชัยพัฒนา กองทัพภาคที่ 3 และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 52,650 กิโลกรัม ให้กับเกษตรกรจังหวัดพิจิตร จำนวน 360 ราย ได้มีพิธีรับมอบพันธุ์ข้าวพระราชทาน เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมาเพื่อให้เกษตรกรได้นำมาปลูกขยายผล ประกอบด้วย

ประเด็นแรก…..ด้านการเกษตรกรที่ทำนาแบบอินทรีย์ จำนวน 100 ราย คิดเป็นพื้นที่ จำนวน 625 ไร่
ประเด็นที่สอง …..เกษตรกรที่ทำนาแบบเกษตรเคมี และต้องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เป็นเกษตรอินทรีย์จำนวน 260 ราย คิดเป็นพื้นที่ จำนวน 2,817 ไร่

ปัจจุบันกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดพิจิตร กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพิจิตร ร่วมกับส่วนราชการ และเกษตรกรจังหวัดพิจิตร ได้จัดให้มีพิธีเกี่ยวข้าวพระราชทาน และดำเนินการเก็บเกี่ยวข้าวพระราชทานไปแล้ว จำนวน 24 ราย คิดเป็นพื้นที่ 240 ไร่ ได้ข้าวเปลือก 109.5 2 ตัน สามารถสร้างรายได้และความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ให้แก่ครอบครัวและชุมชนได้เป็นอย่างดี

โครงการสร้างเสริมคุณลักษณะทหารที่ดี และสมรรถภาพร่างกายที่แข็งแรงของกำลังพล ทหารกองประจำการ Smart Man

ตามที่ผู้บัญชาการทหารบก มีนโยบายให้เน้นการพัฒนา สมรรถนะร่างกายกำลังพล ให้มีลักษณะท่าทางที่สง่างาม มีร่างกายแข็งแรง พร้อมเผชิญกับภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ส่งเสริมและสนับสนุน ให้กำลังพล ตระหนักถึงประโยชน์ของการดูแลสุขภาพร่างกาย ให้แข็งแรง แล้วนำไปประยุกต์ ใช้ในการเพิ่มขีดความสามารถ ในการทำงานของตนเอง
ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 ได้นำนโยบายดังกล่าวมาประยุกต์ใช้กับทหารกองประจำการที่มีกำหนดจะปลดจากกองประจำการ ในสิ้นเดือนเมษายน และตุลาคมทุกนาย ของหน่วยระดับกองร้อยและกองพันขึ้นไป โดยริเริ่มให้โครงการสร้างเสริมคุณลักษณะทหารที่ดีและสมรรถภาพร่างกายที่แข็งแรงของกำลังพลทหารกองประจำการ Smart Man สำหรับหลักเกณฑ์ การประเมินผลโครงการ ฯ ดังกล่าว มีเกณฑ์การให้คะแนนรวม 400 คะแนน ยังมีสาระสำคัญดังนี้

1 การทดสอบความ สมบูรณ์แข็งแรงของร่างกาย 200 คะแนน
2 ด้านความสมส่วนของร่างกาย 100 คะแนน
3 การประเมินความรู้ทั่วไปแนวความคิดและทัศนคติในด้านต่างๆ 100 คะแนน

ผลการดำเนินการที่ผ่านมาได้ดำเนินการมาแล้ว 4 รุ่น รวมเป็นจำนวนยอดทั้งสิ้น 4,911 นาย โดยรุ่นที่ 1 เริ่มตั้งแต่ทหารกองประจำการ ที่ปลดจากกองประจำการในสิ้นเดือนเมษายน 2560 ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการดำเนินการในรุ่นที่ 5 โดยผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 มีนโยบายให้กำลังพลทหารกองประจำการตามหลักเกณฑ์ ผลัด 1/61 เข้ารับการประเมินผลให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวัตถุประสงค์ของโครงการ ในห้วงวันที่ 19 – 21 พฤศจิกายน 2561

การปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าทางการเกษตร กองกำลังนเรศวรมีผลการดำเนินการการปราบปราม การลักลอบนำเข้าสินค้าทางการเกษตร เพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของชาติ ในห้วงวันที่ 1 – 15 พฤศจิกายน 2561 ดังมีสาระสำคัญดังนี้

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2561 ตรวจพบและจับกุมรถยนต์กระบะ บรรทุกหอมแดง จำนวน 60 กระสอบ จำนวน 2,400 กิโลกรัม พร้อมผู้ต้องหา 1 คน บริเวณท่าข้าม บ้านแม่กุหลวง ตำบลแม่กุ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2561 ตรวจพบและจับกุมรถยนต์กระบะ บรรทุกเมล็ดข้าวโพด จำนวน 35 กระสอบ น้ำหนัก 1,575 กิโลกรัมพร้อมผู้ต้องหา 1 คน ลักลอบนำข้ามแดนมาจากประเทศเพื่อนบ้านบริเวณบ้านดอนชัย ตำบลแม่ตาว อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในการสกัดกั้นและปราบปราม การลักลอบนำเข้าสินค้าทางการเกษตร ไม่ผ่านพิธีการตรวจสอบการเสียภาษีอากร ไม่มีการตรวจสอบเชื้อโรค รวมทั้งไม่มีการรับรองคุณภาพตามมาตรฐานของหน่วยงานที่รับผิดชอบ อาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค และก่อให้เกิดภาวะผลผลิตสินค้าทางการเกษตรภายในประเทศเกินความต้องการของตลาด
โดยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงได้มอบนโยบายให้มีการติดตาม ความคืบหน้าในการดำเนินการทางคดีกฎหมายอย่างต่อเนื่อง และหากผลทางคดีสิ้นสุดแล้ว พบว่าเอกชนรายใดเป็นผู้กระทำการดังกล่าว ให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับได้รับทราบข้อเท็จจริงด้วย

ด้านการจับกุมยาเสพติด ตามที่แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองทัพภาคที่ 3 ได้มีนโยบายให้มีการบูรณาการงานด้านการข่าวเพื่อความมั่นคงของพลเรือน ตำรวจ ทหาร และทุกภาคส่วน ในการดำเนินการสกัดกั้นปราบปรามและจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง ตั้งแต่พื้นที่แนวชายแดนจนถึงพื้นที่ตอนในของประเทศ ดังมีรายละเอียดการจับกุมยาเสพติดที่สำคัญดังนี้เหตุการณ์ที่

เหตุการณ์ที่ 1 เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 31 จัดกำลังพลจำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ทำการลาดตระเวนตั้งแต่ฐานปฏิบัติการบ้านสันมะเค็ด ไปยังฐานปฏิบัติการบ้านห้วยกระ ตำบลแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย พบกระท่อมร้างน่าสงสัยจึงได้เข้าไปทำการตรวจสอบ ตรวจพบกระเป๋าเป้ลักษณะแปลกตา มีสีสันสดใสซุกซ่อนอยู่ใต้กระท่อมภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า จำนวน 50,000 เม็ด จากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบไม่พบผู้ต้องสงสัยที่จะเป็นเจ้าของยาเสพติดดังกล่าว ปัจจุบันหน่วยอยู่ระหว่างการขยายผลต่อไป

เหตุการณ์ที่ 2 เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2561 กองบังคับการควบคุม ฝ่ายทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับตำรวจภูธรแม่อาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 334 และฝ่ายปกครอง อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ทำการจัดตั้งด่านตรวจ/จุดตรวจ บริเวณถนนบ้านสันโค้ง ตำบลมะลิกา อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ตามที่ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ผ่านบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ผลการปฏิบัติตรวจพบรถกระบะ จำนวน 1 คัน และรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นรถนำทาง จำนวน 1 คัน จากการตรวจค้นพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า จำนวน 1,000,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องผู้โดยสารรถยนต์กระบะ ปัจจุบันหน่วยได้นำตัวผู้ต้องหา จำนวน 2 คน พร้อมของกลางดังกล่าว ส่งสถานีตำรวจภูธรแม่อายเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

มาตรการการสกัดกั้นยาเสพติดเพิ่มเติมตามที่ผู้บัญชาการทหารบกในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีนโยบายให้บูรณาการกำลังตำรวจ พลเรือน ทหาร และทุกภาคส่วน ในการสกัดกั้นการปราบปรามและจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ในการดำเนินการประสานการปฏิบัติมาตรการสกัดกั้นยาเสพติดเพิ่มเติมดังนี้

มาตรการที่ 1 มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัด/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด ร่วมกับตำรวจ ทหาร และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตรวจค้นเรือนจำและทัณฑสถาน จำนวน 30 แห่ง ในพื้นที่ภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 13 – 16 พฤศจิกายน 2561 ผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่พบยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
มาตรการที่ 2 มอบหมายให้ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จังหวัดทั้ง 17 จังหวัด ประสานการปฏิบัติกับผู้บริหารบริษัท ผู้ให้การบริการจัดส่งพัสดุและสินค้าในพื้นที่เพื่อขอความร่วมมือในการช่วยตรวจสอบเนื่องจากรูปแบบการลำเลียงยาเสพติดของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในระยะหลังนิยมใช้การขนส่งยาเสพติด ทางไปรษณีย์ และการรับจ้างขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ได้ถูกนำมาใช้เป็นช่องทางในการกระจายยาเสพติด ไปสู่ผู้เสพและผู้ค้ารายย่อยในชุมชนมากขึ้น โดยการติดต่อนัดหมายการค้าผ่านระบบ Social Media ต่างๆ ผลการปฏิบัติในการประสานงาน เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ผู้บริหารบริษัทผู้ประกอบการ จะได้เคร่งครัดในการเฝ้าสังเกต รวมทั้งการบันทึกรายละเอียดของผู้ส่งผู้ฝาก และผู้รับสิ่งของผู้รับแทน มากขึ้น

สุดท้าย… มาตรการรักษาความปลอดภัย ช่วงเทศกาลลอยกระทง ตามที่ผู้บัญชาการทหารบกในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีนโยบายให้ข้าราชการทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ร่วมกันจัดตั้งกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยช่วงเทศกาลลอยกระทงและงานกาชาดในพื้นที่ต่างๆ ด้วยการเฝ้าตรวจและลาดตระเวนร่วม เพื่อป้องปรามและลดเหตุอันจะก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นได้ ในการนี้ แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ยังได้กำชับหน่วยในพื้นที่ภาคเหนือ เพิ่มเติมถึงความปลอดภัยของประชาชน ในระหว่างที่มีการจุดพลุและดอกไม้ไฟ ในช่วงเทศกาลลอยกระทงอีกด้วย