Reporter&Thai Army

ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภาคส่วนหน้าจัดประชุมทางไกลผ่านดาวเทียมติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันที่จังหวัดพะเยา เพื่อร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาในพื้นที่

ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภาคส่วนหน้าจัดประชุมทางไกลผ่านดาวเทียมติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันที่จังหวัดพะเยา เพื่อร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาในพื้นที่

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นประธานการประชุมนิเทศงานแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ประจำปีงบประมาณ 2562 พร้อมประชุมวีดีโอทางไกล 9 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อรับทราบสถานการณ์การแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน โดยมี พ.อ.ประสาน ไกรสิงหเดชา รองเสนาธิการศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภาคส่วนหน้า นายประพันธ์ กาใจทราย ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพะเยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม

ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยากล่าวว่า ขณะนี้หลายจังหวัดได้มีการประกาศห้วง 60 วันห้ามเผาแล้ว ขอให้ทุกหน่วยงานเพิ่มความเข้มขันในการบังคับใช้กฏหมาย อย่างจริงจัง เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันปริมาณฝุ่นละอองเพิ่มมากขึ้น หากมีการเผาป่าในพื้นที่จะส่งผลให้สถานการณ์รุนแรง ทั่งนี้ต้องการให้ทุกภาคส่วนได้นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ปัจจัย ของการเกิดสถานการณ์เพื่อร่วมกันหาแนวทางการแก้ไขปัญหา ที่ผ่านมาเราใช้ค่า pm 10 มาใช้ในการจัดการกับฝุ่นละออง แต่ปัจจุบันมีการใช้ค่า pm 2.5 ทำให้การทำงานเกิดความยุ่งยากมากยิ่งขึ้น ดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือไม่ให้มีการเผาโดยเด็ดขาดทั้งในพื้นที่ป่าและพื้นที่ทางการเกษตร
ทั้งนี้ปัจจุบัน ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบนมีจุดความร้อนสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค.ถึง 11 ก.พ. 62 จำนวน 1,035 จุด โดยจังหวัดตากพบจุดความร้อนสูงสุด จำนวน 219 จุด จังหวัดเชียงราย จำนวน 182 จุดและจังหวัดลำปางพบจุดความร้อนจำนวน 176 จุด สำหรับพื้นที่จังหวัดพะเยาห้วง 1 ม.ค. ถึง 11 ก.พ.62 พบจุดความร้อนสะสมจำนวน 22 จุด โดยเกิดใน อ.ปง 12 จุด อ.เขียงม่วน 5 จุด ซึ่งส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนและพื้นที่ทางการเกษตร
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาจังหวัดพะเยาได้ให้ชุมชนกำหนดกฏ กติกาชุมชนหรือมาตรการทางสังคมในการงดการเผา ร่วมกับการสร้างการมีส่วนร่วมในการลาดตระเวน เฝ้าระวังและดับไฟแบบบูรณาการทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพย์ฯ ทหาร ตำรวจ ปกครองและอาสาสมัครในแต่ละชุมชน ตลอดจนการส่งเสริมการไถกลบตอซังในพื้นที่เกษตรหลังการเก็บเกี่ยวและจุดชุดเฝ้าระวัง ลาดตระเวนโดยชุมชนตามเส้นทางเข้าออกพื้นที่ป่าทั่วจังหวัด