ข่าว สรุาษฎร์ธานี

จังหวัดสุราษฎร์ธานีติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พบภาคการขนส่งมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากสุด ร้อยละ 105.35 รองลงมาภาคพลังงาน ร้อยละ 80.42

บ่ายวันนี้ (18 ม.ค.67) นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้นายมนตรา พรหมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานประชุมคณะทำงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับจังหวัด โครงการพัฒนาศักยภาพสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด เพื่อพัฒนาแผนงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับจังหวัด ณ ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

โดยที่ประชุมได้ติดตามผลการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของจังหวัดในปีฐาน (พ.ศ.2562) การคาดการณ์ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอนาคต มาตรการและศักยภาพในการลดก๊าซเรือนกระจก และติดแผนการลดก๊าซเรือนกระจกของจังหวัด นอกจากนี้ยังได้พิจารณามาตรการปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของจังหวัด และพิจารณาคัดเลือกมาตรการปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อจัดทำเผนปฏิบัติการปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ทั้งนี้จากรายงานผลสรุปการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของจังหวัดในปีฐาน 2562 พบว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเรียงลำดับจากสูงสุดไปน้อยที่สุด คือ ภาคการขนส่ง ร้อยละ 105.35 ภาคพลังงาน ร้อยละ 80.42 ภาคการจัดการของเสีย ร้อยละ 14.23 ภาคกระบวนการอุตสาหกรรม และการใช้ผลิตภัณฑ์ ร้อยละ 0.38

ขณะที่การคาดการณ์ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พบว่า มีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งในปี พ.ศ. 2573 หากไม่มีการดำเนินมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จะมีระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่ากับ 3,832,189 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า เพิ่มขึ้นร้อยละ 94.83 เมื่อเทียบกับปีฐาน 2562 และจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปีฐาน 2562 พบว่าภาคพลังงาน มีแนวโน้มสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเป็นอันดับ 1 รองลงมา ได้แก่ ภาคการขนส่ง ภาคการจัดการของเสีย และภาคอุตสาหกรรม ขณะที่ภาคการเกษตร ป่าไม้ และการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นภาคส่วนที่มีการดูดขับและกักเก็บก๊าซเรือนกระจก คิดเป็นร้อยละ 46.67

ภาพ/ข่าว – สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี