กมธ.ปกครองท้องถิ่น จัดรับฟังความคิดเห็น “การเพิ่มศักยภาพการใช้จ่ายเงินสะสมให้มีความคล่องตัว รวดเร็ว และถูกต้อง ตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น”
.
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุม 402-403 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) คณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น วุฒิสภา จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นเรื่อง “การเพิ่มศักยภาพการใช้จ่ายเงินสะสมให้มีความคล่องตัว รวดเร็ว และถูกต้อง ตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” โดยมี นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง เปิดการสัมมนา และนายถาวร เทพวิมลเพชรกุล กรรมาธิการและประธานคณะอนุกรรมาธิการการบริหารงานบุคคล การกำกับดูแลตรวจสอบและการมีส่วนร่วมของประชาชนสำหรับท้องถิ่นรูปแบบทั่วไป กล่าวรายงาน พร้อมด้วย พลเอก เลิศรัตน์ รัตนวานิช ประธานคณะกรรมาธิการ กรรมาธิการ อนุกรรมาธิการ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการ คณะทำงาน ผู้บริหารท้องถิ่น ประธานสภาท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น ข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่น เข้าร่วม
.
นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง กล่าวว่า การที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะจัดทำบริการสาธารณะและกิจกรรมสาธารณะให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากความสามารถในการบริหารงานของผู้บริหารท้องถิ่น จำเป็นต้องมีงบประมาณอย่างเพียงพอในการจัดทำบริการสาธารณะและกิจกรรมสาธารณะได้อย่างคุ้มค่า สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ในการบริหารและการพัฒนาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นอกจากงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากภาครัฐส่วนกลางและการจัดเก็บภาษีต่าง ๆ พบว่า หลายแห่ง
มีงบประมาณไม่เพียงพอ โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดเล็ก มีจำนวนประชากร รายได้ และพื้นที่น้อย ทำให้การบริการสาธารณะและกิจกรรมสาธารณะในท้องถิ่นไม่ทั่วถึง นำมาสู่การตั้งคำถามของประชาชนในพื้นที่ถึงประสิทธิภาพการบริหารงานของผู้บริหารท้องถิ่น “เงินสะสมในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” เป็นงบประมาณที่มีอยู่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง จากข้อมูลพบว่าหลายแห่งไม่ได้นำเงินสะสมดังกล่าวออกมาใช้จ่าย สาเหตุอาจเกิดจากความสับสนในข้อกฎหมาย ระเบียบ และหนังสือสั่งการที่ใช้ในการปฏิบัติงาน รวมถึงความเกรงกลัวเรื่องการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
.
นายถาวร เทพวิมลเพชรกุล ประธานคณะอนุกรรมาธิการการบริหารงานบุคคลฯ กล่าวว่า วัตถุประสงค์การจัดสัมมนาครั้งนี้เพื่อมุ่งหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พิจารณานำเงินสะสมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาใช้ในการจัดทำบริการสาธารณะและกิจกรรมสาธารณะและการพัฒนาท้องถิ่นให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน รวมทั้งสร้างสังคมให้มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน สำหรับรูปแบบการสัมมนา แบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ การอภิปรายเรื่อง “ความสำคัญและแนวทางการใช้จ่ายเงินสะสม ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2566” และการระดมความคิดเห็นกลุ่มย่อย 4 กลุ่ม เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนเรื่อง “ปัญหาอุปสรรคข้อเสนอแนะ รวมทั้งแนวทางแก้ไขการใช้จ่ายเงินสะสมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น”
ภาพ/ข่าว ฤทธิรณ ปัญญากาบ ทีมข่าวไทยเกอร์นิวส์ รัฐสภา รายงาน
