เกษตรกร

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีติดตามการช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว เน้นเกษตรกรทุกคนทุกอาชีพควรขึ้นทะเบียนเกษตรกรเพื่อจะได้รับมาตรการการช่วยเหลือจากภาครัฐทั่วถึง

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีติดตามการช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว เน้นเกษตรกรทุกคนทุกอาชีพควรขึ้นทะเบียนเกษตรกรเพื่อจะได้รับมาตรการการช่วยเหลือจากภาครัฐทั่วถึง

จากการที่รัฐบาลกำหนดมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต 2561/2562 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการในพื้นที่ทุกจังหวัด นั้น ในส่วนการดำเนินการของจังหวัดสุโขทัย นั้น วันนี้ 27 พฤศจิกายน 2561 เวลา 08.30น. นายพีระ ทองโพธิ์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 17 และ 18 ได้เข้าพบ นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เพื่อหารือข้อราชการในประเด็นดังกล่าวตลอดจนการเตรียมจัดกิจกรรมปั่นอุ่นไอรัก การตรวจราชการแบบบูรณาการระดับภาค และการมาประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดสุโขทัย
จากนั้น เวลา 09.00 น. ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 17 และ18 เป็นประธานประชุมตรวจติดตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต 2561/2562 และประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดสุโขทัย (ก.ธ.จ.สุโขทัย)โดยที่ประชุมรับทราบและร่วมพิจารณาประเด็นการตรวจติดตาม ในเรื่องการประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจ กระบวนการ ขั้นตอนการขึ้นทะเบียนเกษตรกร การตรวจสอบพื้นที่เสียหายจากภัยธรรมชาติ การรับเรื่องร้องเรียนการขึ้นทะเบียนเกษตรกร ปัญหาอุปสรรค ข้อจำกัด ข้อเสนอแนะจากการดำเนินการ จาก พาณิชย์จังหวัด เกษตรจังหวัด สหกรณ์จังหวัด ธ.ก.ส.จังหวัด และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ซึ่งพบว่า ที่ประชุมฝากเรื่องการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เช่าทร่ทำการเกษตร กับ เกษตรกรผู้เป็นเจ้าของที่ให้เช่า เพื่อประโยชน์จะได้เกิดกับเกษตรกรผู้ทำการเกษตรแท้จริง นอกจากนี้ ผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรีเขต 17และ 18 กำชับให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจอธิบายแก่เกษตรกรให้ครอบคลุมด้วย
ส่วนในประเด็นการทำหน้าที่ของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด ที่ประชุมรับทราบและพิจารณาเห็นชอบแผนการดำเนินงานของ ก.ธ.จ.สุโขทัย ปี 2562 โดยย้ำต้องบริหารจัดการให้เป็นไปตามแผน ซึ่งจังหวัดสุโขทัยมีโครงการจามแผนพัฒนาจังหวัดรวม 67 กิจกรรมย่อย งบประมาณรวมทั้งสิ้น 200,406,200 บาท(สองร้อยล้านสี่แสนหกพันสองร้อยบาทถ้วน)