ข่าวตราด

ตราด หนุ่มสุโขทัยถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกไปทำงานกัมพูชา ทนไม่ไหวจะกลับไทย ถูกบังคับให้ทำต่อ สุดท้ายฆ่าแก๊งคอลเซนเตอร์ตาย ถูกจับขังตายคาคุกที่กำปงโสม ญาติรอรับศพทำพิธีทางศาสนาที่วัดคลองมะขาม ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด

เรื่องสุดเศร้า หนุ่มสุโขทัยถูกหลอกไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ที่พนมเปญ ทำใจไม่ได้จะกลับไทย ถูกข่มขู่ ทำร้าย บังคับให้ทำต่อ สุดท้ายฆ่าแก๊งคอลเซนเตอร์ชาวจีนตายไป 1 คน ถูกจับขังคุก จนตายคาคุกรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ นางบุญแรม บุญมี อายุ 40 ปี 57/1 ม.6 ต. ลานหอย อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย มารดาของนายวชิรวิทย์ คงทอง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 180 ม.6ต.ลานหอย อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย ที่เสียชีวิตเรือนจำในจังหวัดกำปงโสม ประเทศกัมพูชาเมื่อวันที่ 6 พย.ที่ผ่านมา เดินทางมารอรับศพของนายวชิรวิทย์ คงทอง ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก พร้อมญาติพี่น้อง โดยมีตัวแทนมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงานLPN เดินทางมาช่วยอำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือด้านการจัดเตรียมเอกสารการรับศพ และการบำเพ็ญกุศลศพด้วย

ทั้งนี้เนื่องจากนายวชิรวิทย์ คงทอง ถูกหลอกเข้าไปทำงานในประเทศกัมพูชา โดยบังคับให้เป็นคอลเซนเตอร์หลอกคนไทย นายวชิรวิทย์ ทำหน้าเป็นคอลเซนเตอร์หลอกคนไทยได้ไม่ถึงปี ก็จะเลิกเพราะไม่อยากหลอกลวงคนไทยด้วยกัน แต่ถูกแก๊งคอลเซนเตอร์บังคับ รุมทำร้าย จนเกิดต่อสู้กัน และแก๊งคอลเซนเตอร์เสียชีวิตไป1 คน นายวชิรวิทย์ถูกจับติดคุกฐานฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำนวน 12 ปี แต่ติดคุกได้เพียงไม่ถึงปี นายวชิรวิทย์ก็ป่วยในคุกเป็นโรคปอดบวม ตนพยายามติดต่อฝ่ายกัมพูชาเพื่อขอรับศพนายวชิรวิทย์ สุดท้ายต้องเสียเงินให้กัมพูชากว่า 7 หมื่นบาท ไม่มีหน่วยงานราชการให้ความช่วยเหลือ เงินก็ไม่มี หลังจากรับศพแล้วก็จะทำพิธีบำเพ็ญกุศลศพที่วัดคลองมะขาม ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เพียงคืนเดียวรุ่งขึ้นก็จะฌาปนกิจศพ เลย นางบุญแรม บอกว่า นายวชิรวิทย์พยายามเขียนจดหมายติดต่อทางบ้าน เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ถูกบังคับ ขู่เข็ญ ให้ทำงานหลอกคนไทย และไม่มีเงินใช้ บางวันไม่มีอาหารกิน จนสุดท้ายเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น โดยนายวชิรวิทย์เดินทางไปเพราะไม่ร็ว่าจะให้ไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ดังกล่าว

หลังจากนั้นช่วงเย็นใกล้ค่ำ เจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชา นำศพนายวชิรวิทย์ มาส่งมอบให้ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก นางบุญแรม รับศพแล้ว นำไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่วัดคลองมะขาม เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 10 พย. มีเพียงญาติพี่น้องร่วมพิธีเพียง10 คนเท่านั้น ขณะตัวแทนมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน LPN บอกว่า นายวชิรวิทย์ ถูกหลอกไปทำงานที่กัมพูชาสองคนกับภรรยา แต่ภรรยาหนีกลับมาได้ นายวชิรวิททย์ได้เขียนจดหมายบอกไว้ว่า ตนเองถูกทารุณ ทำร้ายร่างกาย ใช้กระบองไฟฟ้าช๊อต บังคับให้ทำงาน ถ้าไม่ทำจะถูกฆ่าทิ้ง จนสุดท้ายต่อสู้กับแก๊งคอลเซนเตอร์และฆ่าแก๊งคอลเซนเตอร์ตายไป 1 คน จนถูกจำคุก ตัวแทน LPN บอกว่า ความจริงนายวชิรวิทย์เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ และเมื่อเสียชีวิตแล้ว ฝ่ายกัมพูชายังตั้งเงินค่าไถ่ศพกับญาติอีก แทนที่จะให้ความช่วยเหลือ เรื่องดังกล่าวควรที่รัฐบาลไทยจะต้องประสานงานกับรัฐบาลกัมพูชา ในการให้ความช่วยเหลือเหยื่อแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ยังอยู่ในฝั่งกัมพูชาอีก และขอให้ผู้จะไปทำงานในกัมพูชา พึงตรวจสอบระมัดระวัง อยากให้เคสนี้เป็นกรณีศึกษาเพื่อป้องกันปัญหาเหยื่อแก๊งคอลเซนเตร์ต่อไปด้วย

ภาพ/ข่าว วิเชียร ม่วงสี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ตราด