Reporter&Thai Army ข่าว นราธิวาส ข่าวเด่น สันติสุขแดนใต้

กอ.รมน.ภาค 4 สน. ชี้แจงความคืบหน้าการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ จ.นราธิวาส ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 6 ราย

23 มีนาคม 2567 หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดนราธิวาส สนธิกำลังร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจส่วนหน้า, กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส, หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดยะลา, หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดปัตตานี, หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 เข้าบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยที่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่ กรณีเหตุคนร้าย จำนวน 10 คน ปล้นรถยนต์กระบะตอนเดียว ยี่ห้อ ISUZU รุ่น D-MAX สีขาว ป้ายทะเบียน ผธ 597 สงขลา ของบริษัทหาดทิพย์ จากพื้นที่ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส จากนั้นคนร้าย จำนวน 3 คน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ปล้นทรัพย์ร้านวัสดุก่อสร้างพื้นที่ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ในขั้นตอนการปฏิบัติกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่พูดคุยและสร้างความเข้าใจแก่ครอบครัวและญาติของผู้ต้องสงสัยให้ทราบถึงขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งให้ปฏิบัติด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม คำนึงถึงสิทธิมนุษยชนให้มากที่สุด

จากการบังคับใช้กฎหมายสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ จำนวน 6 ราย ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวไปยังยังศูนย์ซักถาม เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถามและขยายผล ที่ศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 จำนวน 3 ราย ทราบชื่อ นายรุสลาม หะยีวาเด็ง นายรุซลัน แมเร๊าะ นายมะขารู ดาวอ
และที่ศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 จำนวน 3 ราย ทราบชื่อ นายมะรอวี ตาฮู  นายมูหัมมัดซอรี อุมา และนายมูฮัมหมัด ดือราซอ

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามกฎหมาย ป.อาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นูอารีซ๊ะ ยะยือริ  รายงาน