ข่าวรัฐสภา

กมธ.การเกษตรฯ วุฒิสภา ลงพื้นที่ศึกษาดูงานด้านการเกษตรเพื่อติดตามการดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติด้านการเกษตร

กมธ.การเกษตรฯ วุฒิสภา ลงพื้นที่ศึกษาดูงานด้านการเกษตรเพื่อติดตามการดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติด้านการเกษตร

วันที่ 26 ตุลาคม 2566 คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา นำโดย พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ ประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา และคณะ ลงพื้นที่ศึกษาดูงาน ณ จังหวัดอุดรธานีและจังหวัดหนองคาย

เวลา 9.00 นาฬิกา ณ จังหวัดอุดรธานี คณะลงพื้นที่ศึกษาดูงานการดำเนินงานแปลงใหญ่ไม้ดอกไม้ประดับบ้านห้วยสำราญ ตำบลหนองไฮ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเดิมเกษตรกรบ้านห้วยสำราญมีอาชีพทำนา ทำไร่ และเริ่มนำเบญจมาศพันธุ์มูเซอมาปลูก เพื่อสร้างรายได้ ต่อมาเกษตรกรให้ความสนใจในการปลูกเบญจมาศเพิ่มมากขึ้น แต่ผลผลิตยังไม่ได้คุณภาพ กรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้มีการส่งเสริมและอบรมให้ความรู้กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกดอกไม้บ้านห้วยสำราญ มีการรวมกลุ่มกันเพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตและมีการนำพันธุ์เบญจมาศมาจากต่างประเทศมาทดลองปลูกในพื้นที่และใช้เทคโนโลยีต่างๆ มาประยุกต์ใช้ในพื้นที่ ทำให้ผลผลิตออกมาได้มาตรฐานเป็นที่ต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น สามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรมากกว่าการทำเกษตรอย่างอื่น พื้นที่ในการเพาะปลูกจะอยู่นอกเขตชลประทานซึ่งเป็นการปลูกโดยอาศัยน้ำจากแหล่งน้ำสระน้ำในไร่นาบ่อบาดาลหนองสาธารณะประจำหมู่บ้านหนองกกดูและอ่างเก็บน้ำลำปลาค่าว นอกจากนี้ยังได้จัดทำแหล่งท่องเที่ยววิถีเกษตร มีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมและกลุ่มศึกษาดูงานเพื่อนำองค์ความรู้ไปพัฒนาต่อยอดต่อไป

จากนั้น คณะกรรมาธิการได้มีข้อเสนอแนะเพื่อให้กลุ่มเกิดความเข้มแข็ง เนื่องจากปัจจุบันเป็นยุคของการแข่งขัน โดยให้มีการนำระบบเกษตรแปลงใหญ่มาใช้ เพื่อให้มีอำนาจในการต่อรองราคา ลดต้นทุนการผลิต และให้มีการรวมกลุ่มเพื่อให้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้และยกระดับการเกษตรให้มีความโดดเด่นในระดับจังหวัดและระดับประเทศ และให้มีการปลูกพืชที่มีความหลากหลายเป็นที่ต้องการของตลาด เช่น ไม้ดอกที่สามารถปลูกได้ทุกฤดูกาล รวมทั้งการนำเทคโนโลยีมาช่วยบริหารจัดการ เช่น การให้น้ำตามความต้องการของพืช ตลอดจนการแปรรูปเพื่อประโยชน์อื่นๆ เช่น การประกอบอาหาร เป็นต้น

จากนั้น เวลา 13.20 นาฬิกา ณ จังหวัดหนองคาย คณะได้ร่วมประชุมและรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าชายแดนและการเตรียมการเพื่อรองรับการค้าสินค้าเกษตรกับระบบการขนส่งทางราง ไทย – ลาว – จีน โดยเฉพาะสินค้าทางการเกษตร โดยมี นายชาญชัย คงทัน รองผู้ว่าราชการจังหวัด ให้การต้อนรับคณะ

สำหรับการค้าชายแดนและการอำนวยความสะดวกด้านการคมนาคมมีหน่วยงาน CIQ (Customs Immigration and Quarantine) เป็นหน่วยงานหลักที่ปฎิบัติหน้าที่ควบคุมดูแลบริเวณชายแดน ประกอบด้วย กรมศุลกากร สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หน่วยงานที่ควบคุมเกี่ยวกับพืชสัตว์อาหารและยา นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานที่จะต้องประสานความร่วมมือในบริเวณพื้นที่ชายแดน เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น หน่วยงานต่างๆ มีการดำเนินงานร่วมกันในหลายภารกิจ เช่น การปฏิบัติพิธีการศุลกากรการนำเข้า – ส่งออก โดยมีสำนักงานศุลกากรหนองคายเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ตรวจปล่อยสินค้าเป็นหลักและมีหน่วยงานอื่นๆ ตรวจสอบใบอนุญาต เช่น ด่านตรวจพืชหนองคายกรณีที่เป็นสินค้าเกษตรและด่านอาหารและยาหนองคาย ทั้งนี้ ในกรณีที่สินค้าเป็นอาหารยาเครื่องสำอางและกรณีที่สินค้าส่งออกเป็นน้ำมันดีเซลจะมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่หนองคายตรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากร นอกจากนี้ ยังมีการเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานภาครัฐทางอิเล็กทรอนิกส์ภายใต้ระบบ National Single window (NSW) ที่เชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานรัฐและเอกชนมากกว่า 30 หน่วยงาน

คณะกรรมาธิการได้มีข้อสังเกตและข้อเสนอเพื่อเป็นการรองรับการเติบโตทางการค้าสินค้าการเกษตร ควรมีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เป็น One Stop Service เพื่อลดเวลาในการขนส่ง และเพื่อเป็นการรักษาคุณภาพของสินค้า โดยเฉพาะ ผลไม้ที่ส่งออก รวมทั้ง กระบวนการออกใบรับรองสุขอนามัยพืช การตรวจสอบสินค้า การอำนวยความสะดวกให้แก่ประเทศคู่ค้า

ภาพ/ข่าว ฤทธิรณ ปัญญากาบ ทีมข่าวไทยเกอร์นิวส์ รัฐสภา รายงาน