รองแม่ทัพภาคที่ 3 ร่วมปฏิบัติภารกิจ รับ มท.1 บินด่วน!!! รอบ 2 ประเมินสถานการณ์ช่วยทีมหมูป่า 13 ชีวิต ติดถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน……
พลตรีฉลองชัย ชัยยะคำ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ให้การต้อนรับ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ในโอกาสที่เดินทางลงพื้นที่ วนอุทยานถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามและสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการค้นหานักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมี่ ทั้ง 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง พร้อมทั้งร่วมประเมินสถานการณ์เพื่อใช้เครื่องมือเจาะผนังถ้ำ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเพิ่มช่องทางเข้าไปในถ้ำ อย่างใกล้ชิด ในการนี้ พันเอกมีชัย นิลศาสตร์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 เป็นผู้บรรยายสรุปการปฏิบัติ มี พลตรีบัญชา ดุริยพันธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37, นาวาเอก อนันต์ สุราวรรณ์ ผู้บังคับการกรมรบพิเศษที่ 1 พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงาน ร่วมให้การต้อนรับ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2561
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่เข้ามาให้ช่วยเหลือนั้น เป็นผู้มีประสบการณ์การดำน้ำในถ้ำและได้เริ่มปฏิบัติการในช่วงเย็นวันที่ 27 มิถุนายน 2561 แล้ว และเชื่อว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนจะปฏิบัติงานทุกวิถีทาง หากมีหนทางใดที่จะปฏิบัติได้ และจะมีการประชุมร่วมกันควบคู่กับการประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ ส่วนการหาหนทางเข้าจากปล่องด้านบนเจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการลาดตระเวนเพื่อหาช่องทางเข้าช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง หากมีเครื่องมือเข้ามาเพิ่มก็จะเร่งดำเนินการทันที
ช่วงเช้าวันนี้ที่ พันเอกมีชัย นิลศาสตร์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 ให้การต้อนรับ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้นำคณะแพทย์จาก โรงพยาบาลตำรวจ ไปตรวจเยี่ยมญาติของเด็ก และตรวจประวัติผู้ป่วยของเด็ก จึงได้บันทึกข้อมูลประวัติเอาไว้ เพื่อจัดเตรียมทีมแพทย์และอุปกรณ์ไว้คอยช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษหากพบเจอตัว รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ทางรัฐบาลและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยและสั่งการให้สนับสนุนการช่วยเหลือครั้งนี้อย่างเต็มที่ จึงได้นำคณะแพทย์มาช่วย นอกเหนือจากกำลังพลซึ่งหากว่าญาติเด็ก ต้องการแจ้งอาการประวัติผู้ป่วยบุตรหลาน สามารถแจ้ง เจ้าหน้าที่ได้เพื่อให้การช่วยเหลือมีประสิทธิภาพต่อไป
โดยเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา กองพลทหารราบที่ 4/กองกำลังนเรศวร จัดกำลังจำนวน 2 ชุดปฏิบัติการเพื่อลาดตระเวนระยะไกล ไปพร้อมกับยานพาหนะและยุทโธปกรณ์เพื่อสนับสนุนกองอำนวยการร่วมกองทัพภาคที่ 3 ในการค้นหาผู้สูญหาย
นอกจากนี้ยังมีการจัดกำลังจาก กองร้อยลาดตระเวนระยะไกล ที่ 4 กองพลทหารราบที่ 4 เข้ามาสนับสนุนภารกิจค้นหาช่องทาง ปล่อง โพรงถ้ำ จากภายนอกถ้ำ ที่สามารถเชื่อมต่อกับถ้ำหลัก เพื่อใช้เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเข้าช่วยเหลือผู้สูญหาย ทั้ง 2 ชุดปฏิบัติการณ์จะปฏิบัติภารกิจร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวและปฏิบัติภารกิจสนับสนุนกองอำนวยการร่วมจนจบภารกิจในการค้นหาต่อไป
ส่วนที่มีผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเข้ามาให้ช่วยเหลือนั้น ได้รับการติดต่อประสานงานผ่านกระทรวงต่างประเทศ พร้อมอำนวยความสะดวกเรื่องการเดินทาง เนื่องจากเป็นผู้มีประสบการณ์การดำน้ำในถ้ำ และได้เริ่มปฏิบัติการในช่วงเย็นวานนี้แล้ว โดยทุกคนจะปฏิบัติงานทุกวิถีทาง หากมีหนทางใดที่จะปฏิบัติได้ ก็จะมีการประชุมร่วมกัน ควบคู่ กับการประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กำลังหาหนทางเข้าจากปล่องด้านบนเพื่อเข้าช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง หากมีเครื่องมือเข้ามาเพิ่มก็จะเร่งดำเนินการทันที ทั้งนี้ กรมบรรเทาป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยหรือ ปภ.ได้ส่งแท่งเรืองแสงเข้าไปเพิ่มเติมอีก 1,000 แท่ง ส่วนเครื่องเอกซเรย์พื้นที่จากกระทรวงพลังงานและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ เครื่องมือเจาะผนังถ้ำ ของกระทรวงพลังงาน มีความพร้อมก็จะเร่งดำเนินการทันที
ขอบคุณภาพ จาก ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง
